THE SINGLE BEST STRATEGY TO USE FOR อาการโรคสมาธิสั้น

The Single Best Strategy To Use For อาการโรคสมาธิสั้น

The Single Best Strategy To Use For อาการโรคสมาธิสั้น

Blog Article

ทำสิ่งที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้ตนเอง

ขัดบทสนทนา พูดแทรก หรือพูดโพล่งออกไปในขณะที่ผู้อื่นกำลังพูดอยู่

มีพฤติกรรมเสี่ยงในวัยรุ่น เช่น การใช้สารเสพติด ติดเกม ติดการพนัน การมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย อาจพบพฤติกรรมเกเร ละเมิดกฏหมาย ทะเลาะวิวาท เป็นต้น

ขาดความสามารถในการควบคุมตนเองในการแสดงออกซึ่งอารมณ์ และพฤติกรรม และมักขาดการยั้งคิด

ปัจจุบัน สาเหตุของการเกิดโรคสมาธิสั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่กำลังมีการศึกษาปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นเหตุให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้น หรือเด็กอาจเป็นโรคสมาธิสั้นจากหลายปัจจัยเหล่านี้รวมกัน ได้แก่

ไม่สามารถจัดการตัวเองในเรื่องของการทำงาน เช่น การวางแผนลำดับการทำงาน การจัดการงานกิจกรรมต่างๆ

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายโรคสมาธิสั้น แต่เป็นเพียงพัฒนาการตามช่วงวัย โดยหากไม่ได้มีอาการตามเกณฑ์วินิจฉัย แสดงว่าเด็กไม่ได้เป็นโรคสมาธิสั้น อาการจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อเด็กโตขึ้น ในขณะที่เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะยังคงมีอาการต่อไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ และจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างเหมาะสม

กลุ่มภารกิจสนับสนุนและพัฒนาเครือข่ายบริการ

เราจะแยกสมาธิสั้นแท้ กับ สมาธิสั้นเทียมได้อย่างไร

การฝึกทักษะความสามารถด้านศิลปะและดนตรี ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะด้านสมาธิได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งด้านศิลปะและดนตรี เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความตั้งใจสูง อย่างเช่น การประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ การทำภาพติดปะ การเป่าสีลงบนกระดาษ การร้องเพลง การเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สนุก ไม่น่าเบื่อ สร้างสรรค์ สามารถดึงความสนใจให้เด็กจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้

ให้คุณครูดึงความสนใจในขณะที่เด็กไม่มีสมาธิ อย่างเช่น ให้ช่วยเหลือเพื่อนๆ ช่วยแจกสมุดหนังสือ ทั้งนี้คุณครูต้องพูดด้วยถ้อยคำสุภาพ ห้ามแสดงความไม่พอใจ 

อาการสมาธิสั้นที่มักพบในเด็กและวัยรุ่นมีดังต่อไปนี้

เชื่อว่าโรคสมาธิสั้นมีสาเหตุจากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยชีวภาพและปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการทำงานของสมองตั้งแต่ขณะอยู่ในครรภ์ ขณะคลอด และหลังคลอดที่อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน โดยมีสาเหตุจากปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นสาเหตุหลัก ส่วนปัจจัยอื่นเช่น อาการโรคสมาธิสั้น ภาวะขาดออกซิเจน การคลอดก่อนกำหนด ภาวะแทรกซ้อนอื่นของการตั้งครรภ์และการคลอด  มารดาดื่มสุรา/สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ การได้รับสารพิษ เช่นภาวะพิษจากสารตะกั่ว นอกจากนี้ในปัจจุบันเริ่มมีข้อมูลเชื่อมโยงการเกิดโรคสมาธิสั้นกับการสัมผัสสาร organophosphate ส่วนปัจจัยด้านการเลี้ยงดู เช่น การเลี้ยงดูที่ขาดระเบียบ หรือการปล่อยให้เด็กดูโทรทัศน์มากเกินไป ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคสมาธิสั้น   แต่อาจมีส่วนทำให้อาการของโรคสมาธิสั้นเป็นมากขึ้นได้

พฤติกรรมขาดสมาธิ ว่อกแว่กง่าย เหม่อลอย จดจ่ออะไรนานๆ ไม่ได้ ขี้ลืม เบื่อง่าย ไม่ค่อยรอบคอบ ทำงานไม่เสร็จตามเวลา ไม่ชอบทำงานที่ต้องอาศัยสมาธิ หรือความพยายาม

Report this page